นักบินปีกทอง · 2015-11-04 ·...

9
นักบินปีกทอง พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก ปกทอง “Wings of Golden” เป็นเครื่องหมาย แสดงความสามารถการบินของนักบินกองทัพเรือ หน่วยนาวิกโยธิน และหน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกา ผู้ที่มีสิทธิประดับปีกน้มีทั้งผู้ที่เคยดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดี ประธานคณะเสนาธิการร่วม/ผู้บัญชาการ ทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการหน่วย นาวิกโยธิน ผู้บัญชาการหน่วยยามฝ่ง ตลอดจน ตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ ของประเทศดังกล่าวและชาติ พันธมิตร รวมทั้งทหารเรือไทย นอกจากนี้ยังมีหลายนาย ที่เป็นมนุษย์อวกาศ วุฒิสมาชิก ได้รับการยกย่องให้เป็น วีรบุรุษสงครามและอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในหลายวงการ บทความนี้ จะกำหนดขอบเขตกล่าวเฉพาะนักบิน ในส่วนของกองทัพเรือ โดยจะนำเสนอให้ทราบถึง แหล่งที่มาการฝึกหัดศึกษา และแนวทางการรับราชการ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ 6 นาวิกศาสตร์ ปีท่ ๙๘ เล่มทีกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Upload: others

Post on 13-Jul-2020

9 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

นักบินปีกทอง พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก

ปีกทอง “Wings of Golden” เป็นเครื่องหมาย แสดงความสามารถการบินของนักบินกองทัพเรือ หน่วยนาวิกโยธิน และหน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ มีสิทธิประดับปีกนี้มีทั้ งผู้ที่ เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ประธานคณะเสนาธิการร่วม/ผู้บัญชาการ ทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธิน ผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่ง ตลอดจนตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ ของประเทศดังกล่าวและชาติพันธมิตร รวมทั้งทหารเรือไทย นอกจากนี้ยังมีหลายนาย ที่เป็นมนุษย์อวกาศ วุฒิสมาชิก ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษสงครามและอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในหลายวงการ บทความนี้ จะกำหนดขอบเขตกล่าวเฉพาะนักบิน ในส่วนของกองทัพเรือ โดยจะนำเสนอให้ทราบถึง แหล่งที่มาการฝึกหัดศึกษา และแนวทางการรับราชการ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ

6 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 2: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

๑. แหล่งที่มา นักบินทหารเรือสหรัฐฯ ถูกจัดเป็นนายทหารประเภทที่ไม่ถูกจำกัดในการทำหน้าที่การรบ สามารถเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยรบในทะเลหรืออื่น ๆ ได้ ที่เรียกว่า “Unrestricted Line” หรือ “Warfare Officer” เช่นเดียวกับนายทหารที่มีหน้าที่ในการรบสาขาอื่น ทั้งสงครามผิวน้ำ สงครามเรือดำน้ำ สงครามพิเศษทางเรือ และพวกปฏิบัติการพิเศษ แหล่งที่มาของนายทหารประเภทนี้ นอกจากโรงเรียนนายเรือแล้ว ตาม Officer Accession Programs หรือโครงการ การผลิตบุคคลเข้าเป็นนายทหารสัญญาบัตร ยังมีอีกหลายแหล่งได้แก่ หน่วยฝึกนายทหารเรือสำรอง “Naval Reserve Officer Training Corps/NROTC” ที่ผู้ เข้าร่วมโครงการจะมีฐานะเป็นนักเรียนนายเรือ (Midshipman) แต่ศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย โดยจะต้องเข้ารับการฝึกหัดศึกษาวิชาทหารเรือและ ฝึกภาคทะเลในวันหยุด และระหว่างปิดภาคฤดูร้อน เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องรับราชการในกองทัพเรือ ตามระยะเวลาในสัญญา หลังจากนั้นจะมีสภาพเป็นกำลังสำรอง โรงเรียนฝึกนายทหารใหม่ “Officer Candidate School/OCS” ซึ่งเป็นแหล่งผลิตนายทหารที่ผู้สมัครเข้ารับการฝึกหัดศึกษา เพื่อเป็นนายทหารสัญญาบัตร

จะต้องสำเร็จการศึกษาขั้นปริญญาตรีแล้ว และศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีทั้งของรัฐและรัฐบาลกลางที่จะมีผู้สำเร็จการศึกษาส่วนหนึ่งเข้ารับราชการในกองทัพเรือเป็นประจำ ทุกปี เมื่อสำเร็จการศึกษาตามแหล่งที่มาต่าง ๆ ที่กล่าวแล้วได้รับการประดับยศเป็น “เรือตรี” รับราชการ ในกองทัพเรือ ผู้ที่มีอายุไม่เกิน ๒๗ ปี และผ่านการ คั ด เลื อกซึ่ ง เน้ นหนั ก ใน เรื่ อ งอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) และอื่น ๆ ที่จำเป็น จะมีฐานะเป็น “ศิษย์การบินทหารเรือ” (Student Naval Aviator/SNA) เข้ารับการฝึกหัดศึกษาตามขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป

๒. การฝึกหัดศึกษา เพื่อที่จะมีขีดความสามารถในการนำอากาศยานเข้าทำการรบในทะเล หรือปฏิบัติการทางเรือสาขา ต่าง ๆ นั้น ศิษย์การบินทหารเรือจะต้องใช้เวลาประมาณ ๑๘ - ๒๔ เดือน เข้ารับการฝึกหัดศึกษา ตามขั้นตอนต่าง ๆ ๔ ขั้นตอน ตามลำดับดังนี้

(ที่มา www.cnatra.navy.mil/imges/ppln_pilot.jpg)

7นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 3: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

๒.๑ Introductory Flight Screening (IFS) ขั้นตอนแรกของการจะเป็นนักบินทหารเรือนั้น ศิษย์การบินจะต้องได้รับการฝึกบินเครื่องบินแบบ ๑เครื่องยนต์ ๑๔ ชั่วโมง ได้รับการปล่อยเดี่ยว (Solo flight) จากโรงเรียนการบินเอกชน ผ่านการทดสอบความรู้นักบินส่วนบุคคล (Private Pilot) จากองค์กรการบินกลาง (Federal Aviation Administration/FAA) รวมทั้งผ่านการทดสอบ Flight aptitude อีกครั้ง จึงจะมีสิทธิเข้าเริ่มทำการฝึกหัดศึกษาตามหลักสูตรของกองทัพเรือต่อไปได้ (โรงเรียนการบินเอกชนในสหรัฐอเมริกามีอยู่ทั่วไป ค่าใช้จ่ายไม่มากนักแต่ค่าใช้จ่าย นี้ผู้เขียนเองไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า จะเป็นความรับผิดชอบของทางราชการหรือไม่) ๒.๒ Aviation Preflight Indoctrination (API) แท้จริงแล้วอาจนับได้ว่าขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนแรกของการเป็นนักบินทหารเรือก็ว่าได้ ขั้นตอนที่ผ่านมาเป็นการกลั่นกรองอีกครั้งว่า นายทหารผู้นั้นเหมาะสม ที่จะทำการบินได้หรือไม่ ซึ่งนายทหารไทยและชาติพันธมิตรอื่น ๆ หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมภาษาอังกฤษที่สถาบันภาษาฐานทัพอากาศ Lackland เมือง San Antonio รัฐ Texas จะเริ่มฝึกขั้นตอนนี้ที่สถานีการบินทหารเรือ Pensacola รัฐ Florida ที่เปรียบเสมือน “แหล่งกำเนิดการบินทหารเรือ” (Cradle of Naval Aviation) หรือบางคนเรียกว่า โรงเรียนนายเรือแห่งที่ ๒ “Annapolis of the Air” ที่นี่ศิษย์การบินทุกนาย จะใช้เวลาประมาณ ๔ สัปดาห์ ในชั้นเรียนศึกษา วิชาอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) เครื่องยนต์และระบบ (Aircraft engines and systems) อุตุนิยมวิทยา (Meteorology) การเดินอากาศ (Air navigation) ตลอดจนกฎการบิน และข้อบังคับต่าง ๆ (Flight rules and regulations) และอีกประมาณ ๒ สัปดาห์ สำหรับการฝึกการดำรงชีพบนบก การปฐมพยาบาล สรีระวิทยาการบิน การดำรงชีพในทะเล รวมทั้งการออกจากเครื่องขณะที่อากาศยาน จมทะเล หลังจากที่เรียนและฝึกตามที่กล่าวมาแล้ว

จะต้องผ่านการทดสอบที่กำหนดจึงจะมีสิทธิเข้ารับ การฝึกบินในขั้นต่อไป

๒.๓ Primary flight training หลังจากที่ได้รับการฝึกมาประมาณ ๒ - ๓ เดือนแล้ว ขั้นตอนนี้ทุกคนจะมีโอกาสได้เริ่มสัมผัสเครื่องบิน ทหารเรือจริง ศิษย์การบินจะถูกแยกส่งไปเข้ารับ การฝึกหัดศึกษา ๒ แห่ง คือ ที่กองบินฝึกที่ ๕ สถานี

8 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 4: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

T-34C Turbo Mentor T-6B Texan II

การบินทหารเรือ Whiting Field เมือง Milton รัฐ Florida ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Pensacola และ ที่กองบินฝึกที่ ๔ สถานีการบินทหารเรือ Corpus Christi รัฐ Texas ที่นี่ศิษย์การบินจะได้รับการฝึกบินกับเครื่อง Beechcraft T-6 B Texan ll หรือเครื่อง T - 34 C Turbo Mentor ในหลักสูตรการบินเบื้องต้นเป็นเวลาประมาณ ๖ เดือน ซึ่งมีการฝึกหัดศึกษา ที่สำคัญ คือ ในชั้นเรียนจะได้รับการศึกษาเกี่ยวกับระบบอากาศยานโดยเฉพาะแบบที่ตนเองกำลังบินอยู่ กฎการบินของสนามบินฝึก รวมทั้งขั้นตอนการปฏิบัติเมื่ออากาศยานฉุกเฉิน ส่วนการฝึกบินที่ประกอบด้วยการฝึกกับเครื่องบินจริงและเครื่องบินจำลอง (Flight simulator) มีหัวข้อที่สำคัญดังนี้ - การบินทำความคุ้นเคย เช่น การวิ่งขึ้น การบินลง การบินในวงจร การบินด้วยขีดจำกัดต่าง ๆ การทำและแก้อาการควงสว่าน (Spin) เป็นต้น

- การฝึกพื้นฐานการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน (Basic Instrument) การบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบินนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งของนักบินทหารเรือ ที่จะต้องได้รับการฝึกให้เข้าไปในสายเลือด ตั้งแต่พื้นฐาน เพราะสภาพการทำงาน เมื่อวิ่งขึ้นจากดาดฟ้าเรือส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศไม่ดี

ไม่สามารถมองเห็นภายนอกได้ จำเป็นต้องใช้เครื่องวัดภายในอากาศยานเป็นเกณฑ์บอกสภาวะ ในขั้นนี้ศิษย์จะได้รับการฝึกอย่างหนัก รวมทั้งสร้างความคุ้นเคย เพื่อให้ยากต่อการเกิดอาการ “หลงฟ้า” (Vertigo) หรือรู้จักการแก้ไขเมื่อเกิดอาการดังกล่าว - การบินท่าทางผาดแผลงที่กำหนด และการบินหมู่ แบบต่าง ๆ เพื่อให้รู้จักขีดสมรรถนะ และข้อจำกัดต่าง ๆ รวมทั้งเป็นพื้นฐานในการฝึกรบในอากาศ (Air Combat) และการดำเนินกลยุทธต่าง ๆ ต่อไป - การฝึกบินด้วยวิทยุเครื่องวัดประกอบการบิน (Radio Instrument Navigation) เป็นการฝึกในการใช้เครื่องวัดแบบต่าง ๆ ที่ใช้คลื่นอิเล็คโตรแมกเนติกส์ ในการบอกระยะและทิศทาง เช่น ADF VOR และ TACAN เป็นต้น ในการบินเดินทาง และขึ้น - ลง สนามบิน - การบินกลางคืน - การบินเดินทาง การฝึกในขั้นตอนนี้ ปัจจุบันมีศิษย์การบินบางนายถูกส่งไปฝึกกับโรงเรียนการบินกองทัพอากาศตามโครงการแลกเปลี่ยนด้วย

๒.๔ Advanced flight training มาถึงจุดนี้ศิษย์การบินได้รับการฝึกมาเป็นระยะเวลา นานพอสมควร เมื่อเสร็จขั้นประถมที่กล่าวมาแล้ว จะมาถึงขั้นปลาย ในขั้นนี้ศิษย์การบินจะถูกเลือกให้ทำการบินตามประเภทที่จะต้องบินในอนาคต เมื่อออกรับราชการซึ่งแบ่งเป็น ๔ ประเภท คือ เครื่องบิน

9นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 5: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

MV-22 Osprey

T-44 Pegasus

TC-12 Huron

E-6A Mercury

ลาดตระเวนทางทะเล เครื่องบินบังคับบัญชาสื่อสาร เครื่องบินขับไล่โจมตี และเฮลิคอปเตอร์ ทั้งนี้นอกจากโดยทั่วไปทั้ง ๔ ประเภทแล้ว ยังมีประเภทที่ ๕ สำหรับศิษย์การบินทหารเรือที่เป็นนายทหารนาวิกโยธินที่จะทำการบินเครื่องบินลำเลียงขึ้นลงทางดิ่ง MV - 22 Osprey ที่ใช้ในการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกแบบข้ามขอบฟ้า เครื่องบินดังกล่าวสามารถลำเลียงทหารได้ประมาณ ๓๐ คน ความเร็วเดินทางประมาณ ๒๕๐ น็อต ขึ้นลงทางดิ่งคล้ายเฮลิคอปเตอร์ โดยการปรับใบพัดใหญ่ขวาซ้ายจากแกนนอนขณะใช้ เดินทาง ด้วยความเร็วสูง ให้มาอยู่ในแนวตั้ง ทำหน้าที่เหมือน ใบพัดใหญ่เฮลิคอปเตอร ์

การเลือกประเภทดังกล่าวขึ้นอยู่กับจำนวน ความต้องการของทางราชการ ขีดความสามารถและความสมัครใจของศิษย์การบิน ทั้งนี้แต่ละประเภทมีการฝึกหัดศึกษาพอเป็นสังเขปคือ

๒.๔.๑ ผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นนักบินลาดตระเวน ทางทะเลในอนาคต ที่่จะทำการบินกับเครื่องบิน แบบ P-3 จะถูกส่งไปรับการฝึกที่สถานีการบินทหารเรือ Corpus Christi เพื่อทำการฝึกกับเครื่องบิน ๒เครื่องยนต์ แบบ T - 44 Pegasus หรือ TC -12 Huron ในการนี้ศิษย์การบินทหารเรือที่เป็นนายทหารนาวิกโยธิน และนายทหารอากาศตามโครงการแลกเปลี่ยนที่จะทำการบินกับเครื่องบินลำเลียงแบบ C - 130 ในอนาคตจะถูกส่งมาฝึกร่วมด้วย

๒.๔.๒ สำหรับผู้ที่จะทำการบินกับเครื่องบิน บังคับบัญชาสื่อสาร (Take Charge And Move Out/TACAMO) แบบ E - 6A Mercury ในอนาคตจะถูกส่งไปฝึกกับเครื่องบิน ๒ เครื่องยนต์ ตามข้อที่แล้วด้วย ก่อนที่จะถูกส่งไปฝึกกับกองทัพอากาศที่ฐานทัพอากาศ Vance รัฐ Oklahoma เพื่อทำการฝึกกับเครื่องบินแบบ T -1 Jayhawk

10 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 6: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

T-1 Jayhawk

T-45C

E -2 Hawkeye

๒.๔.๓ ในส่วนของนักบินขับไล่โจมตีจะถูกส่งไป รับการฝึกที่สถานีการบินทหารเรือ Kingsville รัฐ Texas หรือสถานีการบินทหารเรือ Meridian รัฐ Mississippi เพื่อทำการฝึกบินกับเครื่องบินแบบ T-45A หรือ T-45C ที่เน้นหนักในเรื่องการฝึกพื้นฐานการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน การบินหมู่ การบินกลางคืน และการเดินอากาศตามเส้นทางบินมาตรฐานที่กำหนด (Airway Navigation)

หลังจากการฝึกขั้นกลางที่กล่าวมาแล้ว ศิษย์การบิน ส่วนนี้ประมาณร้อยละ ๒๐ จะถูกเลือกให้ทำการบินกับเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศแบบ E -2 Hawkeye หรือเครื่องบินประจำเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ C-2 Greyhoud ในอนาคตศิษย์การบินพวกนี้จะถูกส่งไปสถานีทหารเรือ Corpus Christi เพื่อฝึกบินกับเครื่องบิน สองเครื่องยนต์แบบ T - 44 Pegasus ต่อไป สำหรับ ที่เหลือที่จะเป็นนักบินขับไล่โจมตีจริงที่จะทำการบิน กับเครื่องบินแบบ F/A 18 , EA-6 B ,AV-8 B หรือเครื่องบินรบแบบอื่น ๆ ในอนาคต จะได้รับการฝึก

ในขั้นปลายต่อไป โดยเน้นหนักในเรื่องยุทธวิธีในการโจมตีภาคพื้น การรบในอากาศ การใช้อาวุธ และ ที่สำคัญคือ การบินขึ้น - ลงเรือบรรทุกเครื่องบิน

๒.๔.๔. สำหรับผู้ที่จะเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ ในอนาคต เมื่อจบจากการฝึกบินขั้นต้นด้วยเครื่องบินปีกนิ่งแล้ว พวกเขาจะได้รับการฝึกเปลี่ยนแบบให้เป็นนักบินปีกหมุนอย่างเต็มตัว ที่สถานีการบินทหารเรือ Whiting Field ด้วยเครื่องแบบ TH - 57 Sea Ranger การฝึกหัดศึกษาทั้งในชั้นเรียน เครื่องฝึกจำลอง และเฮลิคอปเตอร์จริงหัวข้อวิชาจะคล้ายกับในข้อ ๒.๓ เมื่อคราวฝึกเครื่องบินปีกนิ่ง แต่ในตอนปลาย ๆ นอกจาก การฝึกบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบินแล้ว จะเน้นหนัก ในเรื่องยุทธวิธีต่าง ๆ ทั้งการบินบนบก ตามลำน้ำ และการปฏิบัติการในทะเลที่ทุกคนจะต้องมีขีดความสามารถ ในการบินขึ้น - ลงเรือ

TH-57 Sea Ranger

11นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 7: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

TH-57 Sea Ranger

๒.๔.๕ อีกทางเลือกสำหรับศิษย์การบินที่เป็น นายทหารนาวิกโยธิน คือ พวกที่จะทำการบินกับเครื่องบิน ลำเลียงขึ้นลงทางดิ่งแบบ MV 22 Osprey ในอนาคต เมื่อจบการฝึกบินขั้นต้น พวกเขาจะได้รับการฝึกบินเฮลิคอปเตอร์ที่สถานีการบินทหารเรือ Whiting Field ช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะถูกส่งไปที่สถานีการบินทหารเรือ Corpus Christi เพื่อทำการฝึกบินกับเครื่องบิน หลายเครื่องยนต์แบบ TC - 12 Huron ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ได้มีความคุ้นเคยกับการบินทั้งสองแบบ สำหรับเป็นพื้นฐานพร้อมที่จะรับการฝึกอากาศยานลูกผสม Tilt Rotor ต่อไปเมื่อออกปฏิบัติงานแล้ว การฝึกบินขั้นปลายประเภทอื่น ๆ จะใช้เวลาประมาณ ๗ เดือน ยกเว้นหลักสูตรนักบินขับไล่โจมตีที่ใช้เวลาประมาณ ๑ ปี หลังจากที่ได้รับการประดับ ปีกทองแล้ว นักบินทหารเรือใหม่ซึ่งทยอยกันจบการฝึกหัดศึกษาปีละประมาณ ๑,๐๐๐ นาย จะไปรายงานตัว ที่ฝูงฝึกกำลังทดแทนที่เกี่ยวข้องของกองเรือที่ตนสังกัด (Fleet Replacement Squadron) เพื่อรับการฝึกให้สามารถทำการบินเครื่องบินที่ทางราชการกำหนดต่อไป จากนั้นจึงจะได้ปฏิบัติงานจริง ๓. แนวทางในการรับราชการ ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันเส้นทางการเจริญเติบโตในการรับราชการของนักบินทหารเรือกองทัพเรือสหรัฐฯ มีความก้าวหน้าไม่แตกต่างกับนายทหารนักรบทางเรือ

มิติอื่น ทั้งเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ ในจำนวนประธานคณะเสนาธิการร่วมที่เป็นทหารเรือ ๔ ท่าน เป็นนักบินทหารเรือ ๑ ท่าน ในจำนวนผู้บัญชาการทหารเรือ (Chief of Naval Operation) ๓๐ ท่าน เป็นนายทหารเรือ ปีกทอง ๖ ท่าน นอกจากนี้ผู้ที่ประดับปีกนี้ยังเคย หรือกำลังดำรงตำแหน่งสำคัญ ระดับผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการรวม ผู้บัญชาการทัพเรือ ผู้บัญชาการกองเรือ และอื่น ๆ อีกหลายท่าน ได้มีการกำหนด เส้นทางการรับราชการของนายทหารประเภทนี้ไว้ดังนี้

12 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 8: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

- ใน ๒ ปีแรกยศเรือตรี ของการรับราชการ เข้ารับการฝึกเป็นศิษย์การบิน ปีที่ ๓ ยศเรือโท เข้ารับการฝึกบินเปลี่ยนแบบ ที่ฝูงฝึกกำลังพลทดแทนของกองเรือตามที่กล่าวมาแล้ว - ปีที่ ๔ - ๕ ยศเรือโท - เรือเอก ออกทะเล ครั้งแรกเป็นนักบินฝูงบินประจำเรือ ปีที่ ๖ - ๗ ยศเรือเอก ขึ้นบกเข้ารับการศึกษา ณ สถาบันบัณฑิต ศึกษากองทัพเรือ (Naval Post Graduate school) - ปีที่ ๘ - ๙ ยศเรือเอก ออกทะเลทำหน้าที่ ฝ่ายอำนวยการฝูงบินประจำเรือ ปีที่ ๑๐ ยศนาวาตรี เข้ารับการฝึกที่ฝูงฝึกกำลังพลทดแทนของกองเรือ - ปีที่ ๑๑ - ๑๒ ยศนาวาตรี ออกทะเลเป็นหัวหน้าแผนกของฝูงบินประจำเรือ ปีที่ ๑๓ - ๑๕ ยศนาวาโท ปฏิบัติราชการบนบกและเข้ารับการฝึก เพื่อเป็นรองผู้บังคับฝูงบิน ปีที่ ๑๖ - ๑๘ ยศนาวาโท ดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับฝูงบินและผู้บังคับฝูงบิน - ปีที่ ๑๙ - ๒๐ ยศนาวาโท - นาวาเอก รับ การฝึกเกี่ยวกับเรือที่ ใช้พลังนิวเคลียร์หรือเข้ารับ การศึกษาในวิทยาลัยการทัพเรือ ปีที่ ๒๑ - ๒๒ ยศนาวาเอก ผู้ที่รับการฝึกเกี่ยวกับเรือนิวเคลียร์ ทำหน้าที่ต้นเรือ ในเรือบรรทุกเครื่องบินนิวเคลียร์ ผู้ที่จบวิทยาลัยการทัพเรือปฏิบัติราชการในตำแหน่ง ฝ่ายอำนวยการหน่วยบัญชาการรวมหรือที่กองบัญชาการ ในกรุงวอชิงตัน จากนั้นทั้งสองพวกเข้ารับการฝึกเป็น ผู้บังคับการเรือ - ปีที่ ๒๑ - ๒๒ ยศนาวาเอก ปฏิบัติหน้าที่ บนเรือที่กินน้ำลึก (Deep draft) จากนั้นปีที่ ๒๓ - ๒๖ ยศนาวาเอก ผู้ที่เคยรับการฝึกเกี่ยวกับเรือนิวเคลียร์ ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ นอกนั้นเป็นผู้บังคับการเรือบรรทุกเครื่องบินธรรมดาปีที่ ๒๗ - ๒๘ ยศพลเรือตรี ปฏิบัติหน้าที่บนบก ปีที่ ๒๙ - ๓๐ ยศพลเรือตรีอาวุโส ทำหน้าที่ผู้บังคับหมวดเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี - ปีที่ ๓๑ - ๓๓ ยศพลเรือโท ปฏิบัติหน้าที่ ผู้บัญชาการกองเรือหรือปฏิบัติหน้าที่ ที่กองบัญชาการ

ในกรุงวอชิงตัน ปีที่ ๓๔ - ๓๕ ยศพลเรือเอก ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทัพเรือ จากนั้นปีที่ ๓๖ - ๓๘ หากผ่านการคัดเลือกจะดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรวม - ปีที่ ๓๙ - ๔๐ มีโอกาสที่จะดำรงตำแหน่งสูงสุดของการรับราชการ “ประธานคณะเสนาธิการร่วม” (Chairman of Joint Chief Staff) ซึ่งเทียบเท่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เส้นทางการรับราชการที่กล่าวมาเป็นเพียงแนวทางที่เป็นไปได้ หากนายทหารนักบินผู้นั้นผ่านระบบการคัดเลือกตามลำดับทุกขั้นตอนซึ่งมีหลายท่านตามที่กล่าวมาแล้ว ๔. ข้อเสนอแนะ จุดมุ่ งหมายหลักในการเรียบเรียงบทความนี้ มี ๒ ประการ คือ ประการแรก นอกจากจะได้เกร็ดความรู้ในสิ่งที่ยังไม่ทราบโดยทั่วไปแล้ว คาดว่ายังจะทำให้ท่านผู้อ่านโดยเฉพาะที่เป็นทหารเรือจะได้ทราบที่มาที่ ไปของนายทหารเรือนักบินสหรัฐอเมริกา อาจเกิดประโยชน์บ้างในกรณีที่ต้องปฏิบัติงานหรือทำการฝึกผสมกัน ส่วนอีกประการแม้ว่ากองทัพเรือสหรัฐอเมริกาและไทยจะแตกต่างกันมาก แต่จากบทความที่เสนอเมื่อเปรียบเทียบกับ “นักบินปีกทองประดับธงไตรรงค์” ผู้เขียนใคร่ขอแสดงความคิดเห็น ในเชิงเสนอแนะ ซึ่งมีดังนี้ ๔.๑ การผลิตนักบินของกองทัพเรือไทยในปัจจุบันที่ใช้วิธีฝากเรียนกับกองทัพบก กองทัพอากาศ หรือสถาบันการบินพลเรือนของรัฐนั้น นับว่าถูกต้องและ คุ้มค่าแล้ว แต่ที่น่าจะยึดเป็นหลักปฏิบัติ เหมือน ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา คือแม้จะผ่านการทดสอบจากเวชศาสตร์การบินแล้วว่าสามารถทำการบินได้ แต่ก่อนที่จะส่งนายทหารไปเข้ารับการฝึกบินนั้น ควรให้นายทหารเหล่านี้ไปทดสอบและสร้างความคุ้นเคยกับการบินที่กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ ก่อนประมาณ ๑๐ ชั่วโมงบิน ทั้งนี้นอกจากจะเป็นการ

13นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

Page 9: นักบินปีกทอง · 2015-11-04 · กับเครื่องบินแบบ f/a 18 , ea-6 b ,av-8 b หรือ เครื่องบินรบแบบอื่น

เครื่องฝึกบินจำลอง

กลั่นกรองอีกครั้ง และยังจะเป็นการง่ายต่อการฝึกบิน ต่อไปด้วย ๔.๒ ตามที่กล่าวมาแล้ว ข้อแตกต่างระหว่างนักบินทหารเรือกับนักบินทหารเหล่าอื่น หรือนักบินทั่วไป อยู่ที่ธรรมชาติของการทำงาน เมื่อขึ้นจากเรือหรือแม้กระทั่งจากฐานบินบกที่ต้องปฏิบัติการอยู่กลางทะเลมีโอกาสที่จะต้องบินในสภาพอากาศไม่ดีมากกว่าการบินในทัศนวิสัยปกติ ดังนั้นการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน ตลอดจนความทนต่ออาการหลงฟ้าจึงเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นเมื่อนักบินสำเร็จการศึกษามาจากแหล่งต่าง ๆ สิ่งแรกที่ต้องปรับให้ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน คือ การบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน (Instrument Flight Rules) และเครื่องช่วยฝึก การบินดังกล่าวนี้ที่มีประโยชน์ คือ เครื่องฝึกบินจำลอง (Flight Simulator) สมควรได้รับการจัดหา ๔.๓ ได้ทราบว่าปัจจุบันนักบินทหารเรือที่กำลังอยู่ในวัยทำการบิน ลาออกเพื่อไปทำการบินกับบริษัท เดินอากาศต่าง ๆ และการบินเอกชนเป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนหรือไม่สามารถหมุนเวียนกำลังพลนักบินไปปฏิบัติงานนอกกองการบินทหารเรือ ตามพรรคเหล่าแหล่งกำเนิดเดิมของตนได้ ในการนี้หากวิเคราะห์ปัญหาจะพบว่า แม้การออกไปบิน กับพลเรือนจะได้ค่าตอบแทนสูงมาก แต่เหตุผลหนึ่ง

ในการลาออกของกำลังพลเหล่านี้ มาจากความน้อยเนื้อ ต่ำใจในความเจริญก้าวหน้าของการรับราชการ หรือความไม่เห็นอนาคตที่มีลู่ทางจะก้าวหน้าตามที่ ควรจะเป็น สำหรับเรื่องนี้ ในการแก้ปัญหาผู้ เขียน คงไม่กล้าก้าวล่วงได้ ควรเป็นนโยบายการบริหารกำลังพล ของกองทัพเรือ แต่อย่างไรก็ดีมีข้อที่ใคร่เสนอแนะ คือ ปัจจุบันนับได้ว่า กองทัพเรือเราได้มีการแบ่งประเภทนายทหารที่เป็น “Unrestricted line” คือ ไม่จำกัดหน้าที่ในการรบสามารถเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยรบในทะเล หรืออื่น ๆ ได้ เห็นควรให้พิจารณาทบทวนแนวทางการรับราชการของนายทหารเหล่านี้ใหม่ ให้ชัดเจนในทุกสาขาปฏิบัติการทั้ งการรบผิวน้ำ อากาศนาวี สงครามพิเศษทางเรือ และในอนาคตเรือดำน้ำ โดยยึดหลักความเสมอภาคในความก้าวหน้าในอาชีพราชการที่จะต้องมีเป้าหมายสูงสุดที่เท่ากัน หรืออย่างน้อย ทัดเทียมกันโดยยึดขีดความสามารถส่วนบุคคล และภาวะการเป็นผู้นำเป็นหลัก ในการนี้ผู้นำทหารที่ดีควรเป็นผู้ที่มีความสามารถในการบริหารงานที่ดี โดยเฉพาะในยามวิกฤตหรือท่ามกลางความสะพรึงกลัว สามารถปกครองบังคับบัญชาได้ มีความรอบรู้ในการนำทหารหรือนำกองเรือไปรบแล้วไม่แพ้ มิใช่นำเรือเก่งหรือบินเครื่องบินดี เช่นเดียวกับกัปตันเรือสินค้า หรือนักบินเครื่องบินโดยสาร

เอกสารอ้างอิง : http://www.cnatra.navy.mil

14 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘